เคยเป็นกันมั้ย ไม่ถึงกลางเดือน “เงินหายไปไหน” แน่นอนว่าเหตุการณ์แบบนี้ต้องเคยเกิดขึ้นกับหลายๆคน บางคนเงินเดือนออกแค่สองวันก็หายวับไปกับตาแล้วก็มี ซึ่งถ้ามาไล่เรียงถึงต้นเหตุที่ทำให้เงินของคุณหายไป ถ้าไม่เข้าข้างตัวเองกันซะก่อนก็น่าจะพบหลายสาเหตุทีเดียว
แต่จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามที่จะทำให้เงินของเราหายไปเร็วแบบไม่ทันตั้งตัว วันนี้เราเลยมี 10 ไอเดียง่ายๆ เอาไว้หยิบเงินออกจากกระเป๋าช้าๆ และในบางข้อยังช่วยเพิ่มเงินในกระเป๋าของคุณได้อีก ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นไอเดียที่สังเกตจากคนรอบข้างทำแล้วได้ผล เลยเอามาแชร์กันนะ
1. เงินก้อนนี้เอาไปทำอะไรได้มากกว่าที่กำลังจะทำหรือไม่
เช่น ถ้าคุณกำลังจะจ่ายแบงค์พันเพื่อซื้อลิปสติกสักแท่ง แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นไม่ซื้อ แล้วเอาไปย่อยเป็นค่าอาหารในแต่ละวัน ก็น่าจะดี แล้วเจียดเงินในนั้นซื้อลิปที่ราคาถูกลง แบบนี้ก็ได้สองต่อ
2. จะซื้อของใหม่ ให้นึกถึงของเก่า
ก่อนจะซื้อของชิ้นใหม่ที่คุณกำลังจะจ่ายเงิน ให้ลองคิดถึงของชิ้นเดียวกันที่เคยมีอยู่แล้ว ว่าใช้หมดหรือยัง ชำรุดแล้วซ่อมได้หรือไม่ คิดให้ถี่ถ้วนบางทีก็ช่วยประหยัดไปอีกเยอะ
3. นึกถึงตอนไม่มีเงิน
ทุกคนน่าจะเคยอยู่ในสถานการณ์ที่เงินไม่พอใช้กันมาแล้ว แน่นอนว่าตอนนั้นเราต้องมีสกิลในการเอาตัวรอดให้ได้ ไม่ว่าจะต้องกินมาม่า นั่งรถเมล์ งดออกจากบ้าน อะไรก็ตามให้ลองนึกดู ลองเอามาใช้ในสถานการณ์ปกติบ้างก็ได้ มันก็ช่วยประหยัดอะไรได้อีกหลายอย่างเลยล่ะ
4. นั่งรถเมล์บ้างก็ดี
เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่หลายคนมองข้ามกัน ลองคำนวนเส้นทางที่จะไปดูก่อน ซึ่งถ้าเส้นทางนั้นมีรถเมล์ผ่าน ก็เปลี่ยนจากนั่งแท็กซี่มานั่งรถเมล์ ก็ประหยัดได้เป็นร้อยเลยนะ แต่ต้องเผื่อเวลาออกจากบ้านดีๆ
5. กับข้าวหนึ่งอย่างทานได้ทั้งวัน
เราแนะนำให้คุณทำกับข้าว หรือซื้อข้าวเป็นกับ แล้วมาทานที่บ้าน เราเชื่อว่าคุณทานไม่หมดหรอกค่ะในหนึ่งมื้อ ก็เก็บไว้กินจนถึงเย็น เช้าอาจจะทานคู่กับไข่ตุ๋น เย็นอาจจะทานเดียวๆ มิกซ์แอนด์แมทดูนะ ประหยัดได้เยอะ สำหรับวันง่ายๆที่คุณอยู่บ้านชิลล์ๆ
6. ถ้าเลือกซื้อของให้เลือกซื้อที่นำไปขายต่อได้
ข้อนี้เป็นอะไรที่ต้องคิดซับซ้อนสักหน่อย แต่รับรองว่าคุ้มค่ามาก ยกตัวอย่าง หากคุณกำลังจะซื้อกระเป๋าสะพายสักใบ ถ้าคุณเลือกประหยัดเงินโดยซื้อใบละไม่กี่พันเพราะคิดว่าประหยัด ในยุคนี้ก็อาจจะไม่ถูกสักทีเดียว เพราะคุณลองคิดแบบนี้ดูค่ะ หากคุณซื้อกระเป๋าเป็นแบรนด์ที่สามารถนำไปขายต่อได้ หรือมีคนนิยมใช้ ซึ่งเริ่มที่หลักพันปลายๆก็มีแล้วนะคะ พอใช้เบื่อๆก็นำไปขายต่อ ซึ่งพอหักค่าเสื่อมไปแล้วจะพบว่าคุ้มกว่ากระเป๋าราคาถูกที่นำไปขายต่อไม่ได้อีกนะ
7. ซื้อของมือสอง
เดี๋ยวนี้ของมือสองสภาพดีๆมีมากจริงๆ บางทีซื้อมาใช้อย่างกับได้ของมือหนึ่งแต่ราคาลดลงไปกว่า 50% แถมทำในแบบข้อ 6 เพื่อทำกำไรก็ได้อีก แบบนี้เรียกว่าคุ้มค่ามากๆเลยล่ะ
8. นำเงินไปลงทุน
เราแนะนำให้คุณเจียดเงินไว้ก้อนหนึ่งเพื่อนำไปซื้อกองทุนดีๆสักตัวของธนาคาร ซึ่งเงินปันผลค่อนข้างดีมากจริงๆ เมื่อเทียบกับการนำเงินไปฝากไว้เฉยๆ
9. เพิ่มขั้นตอนการใช้เงินให้ยุ่งยากที่สุด
เราต้องสวนกระแสกับบริการในสมัยนี้ค่ะ เพราะดูแล้วถ้าทำตามจะทำให้เราเป็นคนใช้เงินเกินตัวมากไปทุกวัน เพราะฉะนั้น อะไรที่ไม่จำเป็นไม่ต้องสมัคร เช่น ถ้าคุณไม่ใช่พ่อค้าแม่ขายออนไลน์ที่จะต้องใช้อินเตอร์เน็ตแบงค์กิ้ง ก็ไม่ต้องไปสมัคร , เอทีเอ็มถ้าไม่จำเป็นมาก มีใบเดียวก็เพียงพอในยามฉุกเฉินแล้ว , บัตรเครดิตถ้าไม่ได้มีธุระที่ต้องใช้ ไม่ต้องสมัครค่ะ เพราะเมื่อทุกอย่างยุ่งยาก คุณจะขี้เกียจเอาเงินออกมาเอง
10. ลองคำนวนในแอพ
ตอนนี้ถ้าเข้าแอพสโตร์หรือกูเกิ้ลเพลย์ จะพบว่ามีแอพเกี่ยวกับทางการเงินเพียบเลย ทั้งบันทึกรายรับรายจ่าย คำนวนดอกเบี้ย เรียกว่าตอบสนองเราๆได้มาก แต่มีแอพตัวนึงที่อยากให้ลองไปเล่นกัน ชื่อแอพ “พอดี” สาระสำคัญของแอพนี้ ถ้าคุณได้เข้าไปและกรอกข้อมูลตามที่ขึ้นในหน้าจอ แอพจะประเมินว่าเราจะมีศักยภาพในการซื้อของชิ้นนั้นหรือไม่ คือกว่าจะคำนวนเสร็จกดไปหลายที จนตอนที่เล่นรู้สึกว่า ไม่ซื้อก็ได้ นั่นล่ะ สติมาตอนนั้นเลย
นี่คือทั้ง 10 ไอเดียที่คิดว่าจะยับยั้งเงินในกระเป๋าไม่ให้หายไปแบบไม่ทันตั้งตัว แล้วยังช่วยเพิ่มเงินในกระเป๋าอีกด้วย ลองเอาไปทำกันดูนะคะ เป็นวิธีง่ายๆ ที่เราเชื่อว่าต้องได้ผลทางใดก็ทางหนึ่ง อย่างน้อยเราก็เริ่มมีสติในการใช้เงินกันบ้างล่ะค่ะ